เกาะ

หนุ่มอังกฤษเผยวิธี (พร้อมขั้นตอน) การเดินทางไปยัง “เกาะที่อันตรายที่สุดในโลก”

“ไมลส์ เราท์เลดจ์” (Miles Routledge) นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบเสี่ยงตาย เขาเดินทางไปยังสถานที่อันตรายมากมายทั่วโลก เช่น อัฟกานิสถานท่ามกลางการยึดครองของตอลิบาน หรือ ยูเครนระหว่างการรุกรานของรัสเซีย โดยจุดหมายต่อไปของเขาคือ “นอร์ท เซนทิเนล” เกาะที่อันตรายที่สุดในโลก “นอร์ท เซนทิเนล” (North Sentinel) เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในอ่าวเบงกอล ณ คาบมหาสมุทรอินเดีย เป็นที่อยู่ของชนเผ่าเซนทิเนลลีส ที่ปฏิเสธการติดต่อจากโลกภายนอกมานานเกือบ 10,000 ปีแล้ว และหากใครเข้ามาใกล้เกาะภายในรัศมี 500 เมตร จะถูกชนเผ่าโจมตีด้วยการยิงธนูใส่ทันที  โดยในปี 2006 มีชาวประมง 2 คน ถูกสังหารเนื่องจากเข้าใกล้เกาะมากเกินไป และในปี 2018 นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน John Allen Chau ก็ถูกสังหารหลังจากพยายามขึ้นฝั่งบนเกาะเซนทิเนล โดยสาเหตุที่พวกเขาปฏิเสธจากโลกภายนอกแบบนี้ เป็นเพราะกลัวการติดเชื้อจากคนนอกเผ่านั้นเอง แม้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทางการของอินเดียพยายามผูกมิตรกับเผ่าเซนทิเนลแล้วแต่ก็ไม่เป็นผล เอาล่ะ..กลับมาที่ “ไมลส์ เราท์เลดจ์” เขาทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ถึงแผนการเดินทางไปยังเกาะเซนทิเนลไว้ดังนี้ เริ่มจากเช่าเรือ 2 ลำเดินทางไปยังเกาะเซนทิเนล โดยแยกกันไปคนละทาง ให้เรือลำแรกจุดดอกไม้ไฟเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของชนเผ่า […]

หนุ่มอังกฤษเผยวิธี (พร้อมขั้นตอน) การเดินทางไปยัง “เกาะที่อันตรายที่สุดในโลก” Read More »

รู้จักกับ “หมู่บ้านสุดกันดาล” (ไม่มีน้ำจืด ไฟฟ้าไม่พอ) แต่กลับมีคนอยู่หนาแน่นสุดในโลก

นี่คือ “Santa Cruz del Islote” (อ่านว่า ซานตา-ครูซ-เดล-อิสโลเต) เป็นเกาะปะการังเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในหมู่เกาะ San Bernado นอกชายฝั่งโคลอมเบีย มีขนาด 2.4 เอเคอร์ (ประมาณสนามฟุตบอล 2 สนาม) แต่มีคนอยู่มากถึง 1,200 คน ซึ่งหากเทียบจำนวนประชากรกับพื้นที่แล้ว หมู่บ้านแห่งนี้มีคนอยู่หนาแน่นกว่าเกาะแมนฮัตตันถึง 4 เท่า ! กลายเป็นพื้นที่ที่คนอยู่หนาแน่นมากที่สุดในโลก โดยหมู่บ้านซานตาครูซค่อนข้างกันดาล เพราะที่นี่ไม่มีระบบน้ำปะปา ไม่มีระบบน้ำเสีย ไม่มีระบบจัดการกับสิ่งปฏิกูล มีไฟฟ้าให้ใช้ได้เพียงวันละ 5 ชั่วโมงเท่านั้น และต้องรอน้ำจืดจากกองทัพโคลอมเบียที่จะมาส่งทุก 3 สัปดาห์ ซึ่งสิ่งที่น่าแปลกใจคือ มันกันดาลขนาดนี้ แต่ทำไมถึงยังอยู่กันนะ ? คำตอบของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 150 ปีก่อน ที่มีกลุ่มชาวประมงจากเมืองชายฝั่งบารู ที่อยู่ห่างออกไป 50 กิโลเมตร ออกมาหาปลาบริเวณเกาะซานตา ครูซ ก่อนจะตัดสินใจพักค้างคืนที่นั่น และสิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจคือ “เกาะแห่งนี้ไม่มียุง”

รู้จักกับ “หมู่บ้านสุดกันดาล” (ไม่มีน้ำจืด ไฟฟ้าไม่พอ) แต่กลับมีคนอยู่หนาแน่นสุดในโลก Read More »

รู้จักกับ ชายที่อยู่บนเกาะร้างมานานเกือบ 30 ปี – จนถูกขนานนานว่า “Castaway ตัวจริง”

คุณปู่ “มาซาฟุมิ นางาซากิ” ชายชาวญี่ปุ่นวัย 82 ปี อาศัยอยู่บนเกาะร้างห่างไกลของญี่ปุ่นอย่างโดดเดี่ยวมานานกว่า 29 ปี จนถูกขนานนามว่าเป็น “Castaway ตัวจริง” โดยเขาตั้งใจจะใช้ชีวิตอยู่บนเกาะแห่งนี้ไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต ย้อนไปในปี ค.ศ.1989 ปู่นางาซากิตัดสินใจทิ้งบ้านและย้ายไปอยู่บนเกาะโซโตะบานาริ เกาะร้างในจังหวัดโอกินาว่า ที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งไปเพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ไม่มีใครขึ้นไปบนเกาะนั้นเนื่องจากกระแสน้ำโดยรอบนั้นอันตราย แต่นั่นก็เป็นเหตุผลที่คุณปู่เลือกมาอยู่บนเกาะนี้นั่นแหละ อดีตเขาเคยเป็นช่างภาพและเคยประกอบกิจการโฮสต์คลับ ซึ่งไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ปู่นางาซากิตัดสินใจทิ้งชีวิตที่สดใสและมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวแบบนี้ แต่เมื่อปี 2012 ปู่นางาซากิเคยกล่าวกับสำนักข่าว Reuters ว่า “การหาที่ตายคือสิ่งสำคัญสำหรับฉัน และฉันตัดสินใจแล้วว่าที่เกาะแห่งนี้คือที่สำหรับฉัน” “อัลเบโร เซเรโซ” นักข่าวอิสระ ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ปู่นางาซากิและใช้ชีวิตร่วมกันเป็นเวลากว่า 5 วัน เล่าว่า “ในช่วงแรกที่ปู่มาอยู่ที่นี่ เขาใช้ชีวิตด้วยการสวมเสื้อผ้าปกติ แต่อยู่มาวันหนึ่งพายุได้พัดถล่มบ้านที่เขาสร้างขึ้นพร้อมกับทรัพย์สินและเสื้อผ้าลอยไปกับสายลม ทว่าไม่นานเขาก็ตระหนักได้ว่า ตนเองไม่ต้องใส่เสื้อผ้าบนเกาะห่างไกลไร้ผู้คนแบบนี้สักหน่อย” นั่นเป็นเหตุผลที่ปู่ใช้ชีวิตบนเกาะโดยไม่สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้นเดียว สิ่งที่น่าสนใจของปู่นางาซากิคือ เขาเป็นคนตรงต่อเวลาและมีระเบียบวินัยมาก แม้จะอยู่เพียงลำพังบนเกาะที่เอาจริง ๆ เขาจะทำอะไรก็ได้ จะยืดหยุ่นแค่ไหนหรือไม่ทำอะไรเลยก็ยังได้ แต่ทว่าปู่มีตารางเวลาการใช้ชีวิตที่ชัดเจน เซเรโซกล่าวว่า “ฉันมาสายจากเวลาที่ปู่นัดไป 5 นาที

รู้จักกับ ชายที่อยู่บนเกาะร้างมานานเกือบ 30 ปี – จนถูกขนานนานว่า “Castaway ตัวจริง” Read More »

Scroll to Top