หมาป่า

จีนประสบความสำเร็จ โคลนนิ่ง “ลูกหมาป่าอาร์กติก” (สัตว์หายาก) ตัวแรกของโลก

จากความพยายามเกือบ 2 ปีเต็ม บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของจีน ประสบความสำเร็จในการโคลิ่นนิ่ง “ลูกหมาป่าอาร์กติก” (Arctic Wolf) ครั้งแรกและตัวแรกของโลก ถูกตั้งชื่อว่า “มายา” เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2022 “Sinogene Biotechnologies” เปิดเผยวิดีโอของเจ้ามายา ลูกหมาป่าอาร์กติกที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ โดยมายาเกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ในกรุงปักกิ่ง จาก DNA ของ “มายา” (ตัวต้นแบบ) หมาป่าอาร์กติกที่เสียชีวิตในฮาร์บิน โพลาร์แลนด์ อุทยานสัตว์ป่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน  โดยมายาตัวต้นแบบถูกย้ายมาจากแคนาดาเมื่อปี 2006 และเสียชีวิตเมื่อต้นปี 2021 ด้วยวัยชรา ซึ่ง “Mi Jidong” หัวหน้าทีมของ Sinogene ระบุว่า “พวกเราใช้เวลาเกือบ 2 ปีในการพยายามโคลนนิ่งเจ้ามายาขึ้นมา พวกเราเลือกใช้วิธีการถ่ายโอนนิวเคลียสของเซลล์โซมาติก (SCNT) เป็นวิธีเดียวกันกับที่ใช้โคลนนิ่ง ‘แกะดอลลี่’ (สัตว์โคลนนิ่งตัวแรกของโลก)” จากข้อมูลของ Global Times เผยว่า “ทีมวิจัยสกัด […]

จีนประสบความสำเร็จ โคลนนิ่ง “ลูกหมาป่าอาร์กติก” (สัตว์หายาก) ตัวแรกของโลก Read More »

รู้จักกับ “เมนวูล์ฟ” หมาป่า-ที่ไม่ใช่หมาป่า สัตว์หายากที่ตอนนี้กำลังจะสูญพันธุ์แล้ว

นี่คือ “เมนวูล์ฟ” (Maned Wolf) หมาป่าแห่งอเมริกาใต้ แต่ถึงจะชื่อว่าหมาป่า และมีหน้าตาเหมือนสุนัขจิ้งจอกผสมกวาง แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่สัตว์ในตระกูลหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอกเลย โดยชื่อวิทยาศาสตร์คือ Chrysocyon brachyurus มันเป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวในตระกูล เมนวูล์ฟเป็นสัตว์หายากและตอนนี้มันใกล้จะสูญพันธุ์แล้วครับ เมนวูล์ฟมีลักษณะเด่นคือ ขนสีส้มแดงคล้ายสุนัขจิ้งจอก ขาดำยาว และหูตั้งใหญ่ โดยมันมีความสูงประมาณ 90 เซนติเมตร หนักประมาณ 30 กิโลกรัม (ถือว่าตัวใหญ่พอสมควรเลยนะ) อาศัยอยู่ในภูมิประเทศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา ป่าดิบชื้น พื้นที่ชุ่มน้ำ สามารถพบพวกมันได้ในอเมริกาใต้ตอนกลางและตะวันออก โดยเมนวูล์ฟเป็นสัตว์ที่ออกหากินตามลำพังและเป็นสัตว์ประเภทที่สามารถกินได้ทุกอย่าง (Omnivorous Diet) แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่นักล่าดุดันเหมือนหมาป่าหรือสิงโตอะไรทำนองนั้น เพราะอาหารหลักของมันคือผลไม้ หนู กระต่าย นก และแมลง ซึ่งศัตรูทางธรรมชาติของมันคือสุนัขบ้านและเสือภูเขา แต่สิ่งที่คุกคามมันมากที่สุดคือมนุษย์ การขยายตัวของเมืองทำให้ที่อยู่อาศัยของเมนวูล์ฟลดลง และมีรายงานจำนวนไม่น้อยที่พบว่าเมนวูล์ฟถูกรถชนตายในเส้นถนนตัดผ่าน อีกทั้งยังมีการล่าเมนวูล์ฟสำหรับนำไปทำเป็นยาแผนโบราณ ถึงแม้ว่าจะไม่มีงานวิจัยว่าอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของเมนวูล์ฟจะมีสรรพคุณในการรักษาโรคก็ตาม แต่พวกมันก็ยังคงถูกล่าต่อไป อีกทั้งชาวบราซิลพื้นเมืองบางคนเชื่อว่า ลูกตาของเมนวูล์ฟเป็นเครื่องรางนำโชคอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การล่าเมนวูล์ฟบางครั้งถูกจัดเป็นกีฬา หรือไม่ก็ล่าเพราะเกษตกรบางคนจะล่าหมาป่าและสัตว์นักล่าทุกชนิดรวมถึงเมนวูล์ฟด้วยเพราะเชื่อว่ามันเข้าไปกินสัตว์ของพวกเขา ซึ่งแม้ความจริงเมนวูล์ฟไมม่ใช่สัตว์นักล่าอย่างที่คิด รวมถึงยังมีโรคติดต่อที่ทำให้จำนวนประชากรเมนวูล์ฟลดลงด้วย ทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุให้พวกมันเข้าใกล้การสูญพันธุ์เข้าไปทุกที อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีความพยายามในการอนุรักษ์เมนวูล์ฟด้วยการใส่มันอยู่ในรายชื่อสัตว์คุ้มครอง

รู้จักกับ “เมนวูล์ฟ” หมาป่า-ที่ไม่ใช่หมาป่า สัตว์หายากที่ตอนนี้กำลังจะสูญพันธุ์แล้ว Read More »

ช่างภาพติดตาม มิตรภาพระหว่าง หมี-หมาป่า (สัตว์ต่างสุดขั้ว) ที่มาเป็นเพื่อนคู่ใจกันเฉยเลย

(เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2013) “ลาสซี ลูติเนน” ช่างภาพธรรมชาติชาวฟินแลนด์ วัย 56 ปี ที่ขณะนั้นกำลังออกสำรวจสัตว์ป่าทางตอนเหนือของประเทศ จนได้บังเอิญพบกับ “หมี” และ “หมาป่าสีเทา” ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ซึ่งมันเป็นความสัมพันธ์ที่แปลกและประหลาดอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งไม่มีบันทึกใดเคยระบุการพบเห็นพฤติกรรมสัตว์แบบนี้มาก่อน ลาสซี เล่าให้กับสำนักข่าว Dailymail ฟังว่า “เราไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมพวกมันทั้งคู่ถึงมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ ผมไม่เคยพบเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน เพราะตามธรรมชาติแล้วหมาป่าจะอยู่เป็นฝูง ส่วนหมีจะอาศัยตามลำพัง หรืออาจเป็นไปได้ว่า ทั้งคู่ถูกขับไล่ออกจากถิ่นอาศัย จากนั้นจึงบังเอิญมาเจอกัน ทำให้เลือกที่จะจับคู่เพื่อความอยู่รอด หรือบางทีพวกมันอาจรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ด้วยกันก็ได้นะ” โดยช่างภาพท่านนี้ยังได้เล่าเพิ่มเติมอีกว่า – จากการสังเกตพฤติกรรม พบว่าในช่วงกลางวันทั้งคู่จะแยกกันไปหาอาหาร และเมื่อตกเย็นก็จะนำสิ่งที่ล่าได้มาแบ่งกันกิน ซึ่งหลังกินเสร็จก็จะไม่ได้แยกกันทันทีแต่จะใช้เวลาอยู่ร่วมกันตั้งแต่ 2 ทุ่มจนถึงตี 4  ก่อนจะแยกไปหาอาหารและกลับมากินร่วมกันใหม่เช่นเดิม โดยลาสซีใช้เวลาติดตามมิตรภาพนี้นานถึง 10 วัน (และเป็นแบบนี้ทุกวัน – จนกระทั่งลาสซี่เดินทางออกจากป่าครับ) ภาพถ่ายของลาสซีโด่งดังมากจนกลายเป็นไวรัล และได้จุดกระแสเรียกร้องรณรงค์ไม่ให้ล่าหมีในบริเวณที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ ซึ่งทางลาสซีเองก็เป็นคนยื่นเรื่องนี้ต่อรัฐบาลฟินแลนด์ จนสุดท้ายกฏหมายปกป้องสัตว์ก็ได้รับการอนุมัติในที่สุด นับแต่นั้นบันทึกความสัมพันธุ์ของหมาป่าและหมีคู่นี้ก็ดึงดูดช่างภาพและนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ให้เดินทางมาเยี่ยมชมธรรมชาติและหวังจะได้พวกมันครับ ซึ่งที่เราใช้คำว่า “มิตรภาพแปลก” นั่นก็เพราะมันแปลกจริง ๆ

ช่างภาพติดตาม มิตรภาพระหว่าง หมี-หมาป่า (สัตว์ต่างสุดขั้ว) ที่มาเป็นเพื่อนคู่ใจกันเฉยเลย Read More »

Scroll to Top