ธุรกิจ

รู้จักกับ “Sea Cucumber” สัตว์หน้าประหลาด แต่มูลค่ามหาศาล-ฉายา “ทองคำแห่งท้องทะเล”

หลายคนอาจไม่รู้ว่า “Sea cucumber” หรือ “ปลิงทะเล” เป็นสัตว์ที่มีมูลค่ามหาศาล ที่ขายกันในราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 3,500 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 130,000 บาทกันเลยทีเดียว ว่าแต่ทำไมมูลค่าของมันถึงแพงขนาดนั้น แล้วใครกันที่ยอมจ่ายเงินมหาศาลเพื่อสัตว์ทะเลหน้าแปลกชนิดนี้ เดี๋ยว Flagfrog เล่าให้ฟังครับ ก่อนอื่นมารู้จักกับปลิงทะเลกันก่อน โดยพวกมันเป็นสัตว์ไม่มีกระดุกสันหลัง มีประมาณ 1,250 สายพันธุ์ทั่วโลก มีขนาดตั้งแต่ 2 เซนติเมตร ไปจนถึงยาวสุด 1.8 เมตรเลยทีเดียว กระจายตัวอยู่ในมหาสมุทรทั่วโลก ตั้งแต่น้ำตื้นใกล้ชายฝั่ง ไปจนถึงร่องลึกสุดในมหาสมุทร โดยสายพันธุ์ที่แพง ๆ คือสายพันธุ์ที่อยู่ในน้ำลึก (ยิ่งหายากก็ยิ่งแพงนั่นเอง) ปลิงทะเลจัดว่าเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อระบบนิเวศอย่างมาก เพราะการขับถ่ายของมันจะขับไนโตรเจน แอมโมเนีย และแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างแนวปะการัง อีกทั้งของเสียที่พวกมันปล่อยออกมายังมีค่า pH สูง ซึ่งช่วยลดความเป็นกรดของน้ำทะเลที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์อีกด้วย เอาล่ะเกริ่นซะเยอะเลย มาเข้าเรื่องกันดีกว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้สัตว์หน้าตาประหลาดนี้มีราคาสูงลิ่วเป็นเพราะ ความนิยมในฝั่งเอเชียตะวันออกที่เชื่อว่ามีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายและคุณค่าทางอาหารสูง ซึ่งในอดีตมักถูกเสิร์ฟให้กับชนชั้นสูงและคนร่ำรวยมาก ๆ เท่านั้น ดังนั้นปลิงทะเลจึงถูกมองว่าเป็นอาหารล้ำค่านั่นเอง โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 1980 […]

รู้จักกับ “Sea Cucumber” สัตว์หน้าประหลาด แต่มูลค่ามหาศาล-ฉายา “ทองคำแห่งท้องทะเล” Read More »

(เรื่องจริง) “เมืองผีสิง” ที่ไฟเปิดทุกคืน-บ้านทุกหลังสะอาดกริบ แต่ไม่มีคนอยู่นาน 40 ปีแล้ว

ถ้าให้นึกภาพเมืองผีสิง หลายคนคงคิดว่าต้องเป็นบ้านโทรม ๆ รกร้าง เก่าแก่ และเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง แต่ทว่าที่เมือง “Kitsault” (คิท-ซอล์ท) ทุกอย่างกลับสะอาดเอี่ยม ราวกลับมีคนอยู่จริง ๆ แถมทุกคืน ไฟในเมืองจะเปิดตลอด แต่ทว่าที่นี่ไม่มีใครอยู่มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1982 แล้ว โดยเมือง Kitsault ตั้งอยู่ชายฝั่งทางตอนเหนือของรัฐบริติชโคลอมเบีย ประเทศแคนาดา ที่นี่มีทั้งบ้านเรือน ศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล ธนาคาร ผับบาร์ และโรงละคร ทั้งหมดนี้ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 40 ปีแล้ว แต่ความลึกลับของที่นี่ไม่ใช่ภูติผีหรือวิญญาณ แต่เป็นเรื่องของธุรกิจต่างหาก เรื่องราวย้อนไปราว 100 ปีก่อน ภูมิภาคนี้เป็นแหล่งแร่โมลิบดีนัม (Molybdenum) เป็นแร่โลหะที่ใช้ในการชุบเหล็กหรือใช้ผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้า ซึ่งรุ่งเรืองมากในยุคนั้น โดยในช่วงต้นทศวรรษ 1970 ราคาของแร่โมลิบดีนัมสูงขึ้นมาก เนื่องจากแร่นี้เริ่มเป็นที่ต้องการและหายาก ด้วยเหตุนี้ บริษัท Phelps Dodge จึงเห็นโอกาสทำกำไร จนในปี ค.ศ.1979 บริษัทตัดสินใจลงทุนสร้างเมืองเล็ก ๆ ขึ้นมาสำหรับคนงานเหมือง ซึ่งก็คือเมือง “Kitsault”

(เรื่องจริง) “เมืองผีสิง” ที่ไฟเปิดทุกคืน-บ้านทุกหลังสะอาดกริบ แต่ไม่มีคนอยู่นาน 40 ปีแล้ว Read More »

คู่รักนักธุรกิจเอาจริง “ทุ่ม 15 ล้าน” ซื้อบ้านต้นตอ The Conjuring หวังเผชิญประสบการณ์ต่าง ๆ

เมื่อปี 2019 คู่สามีภรรยา “เจนน์และคอรี ไฮน์เซน” ตัดสินใจซื้อบ้านที่เป็นต้นแบบจากภาพยนตร์และนวนิยายสยองขวัญเรื่อง “The Conjuring” ในราคาเกือบ 15 ล้านบาท ซึ่งอะไรดลใจให้ทั้งคู่ซื้อบ้านไม้เก่าผุพังในราคาสูงขนาดนี้ ? บ้านหลังนี้มีอาถรรพณ์และวิญญาณร้ายอยู่จริงเหรอ ? ประวัติศาสตร์ความจริงต่างจากในนิยายขนาดไหน ? มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลยครับ บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 8.5 เอเคอร์ (21 ไร่) ในรัฐโลดไอแลนด์ ประเทศอเมริกา ถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณช่วงปี ค.ศ.1736 กลายเป็นที่รู้จักจากภาพถ่ายทางอากาศเมื่อปี ค.ศ.1836 เนื่องจากเป็นบ้านเดี่ยวที่ตั้งอยู่ใจกลางป่ารายล้อมด้วยต้นไม้สูงอย่างน่าประหลาดใจและชวนขนลุกไปในเวลาเดียวกัน ต่อมาบ้านหลังนี้เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังหลังจากที่ครอบครัวเพอร์รอน (Perron) ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1970 โดยแอนเดรีย ลูกสาวคนโตของบ้านเขียนบันทึกเรื่องราวและประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ครอบครัวเจอกับบ้านหลังนี้ ในบันทึกมีท่อนที่เล่าว่า “น้องสาวเธอถูกตบจากสิ่งที่มองไม่เห็น มีเคียวที่ลอยออกมาจากโรงนาและเกือบตัดหัวแม่ บางครั้งเห็นคนที่ทะลุหายเข้าไปในกำแพง” โดยนวนิยายเรื่อง The Conjuring ถูกแต่งขึ้นจากบันทึกของแอนเดรีย ก่อนที่จะกลายมาเป็นภาพยนตร์ในปี 2013 ซึ่งตัวละครหลักในเรื่องคือ “บัทเชบา” (Bathsheba) ผีแม่มดที่หลอกหลอนและทำร้ายครอบครัวในเรื่อง จริงอยู่ที่บัทเชบาเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีตัวตนอยู่จริง แต่ทว่าร่างของเธอถูกฝั่งอยู่ในสุสานไกลออกไป และไม่มีประวัติเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมแต่อย่างใด

คู่รักนักธุรกิจเอาจริง “ทุ่ม 15 ล้าน” ซื้อบ้านต้นตอ The Conjuring หวังเผชิญประสบการณ์ต่าง ๆ Read More »

Scroll to Top