กระดูก

พบ “ซากกระดูกสันหลัง” ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ (ยาว 10 เมตร) เกยตื้นชายฝั่งออสเตรเลีย

นักสำรวจพบซากกระดูกของสัตว์ขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 10 เมตร ในระหว่างเดินสำรวจชายหาดวอนบอยน์ ทางตอนใต้ของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าเป็นกระดูกของวาฬ “โทนี่ แฮนด์ค็อก” ผู้ค้นพบในครั้งนี้กล่าวว่า “เราได้กลิ่นเหม็นระหว่างเดินสำรวจชายหาด และเมื่อตามกลิ่นไปก็ได้พบกับซากกระดูกขนาดใหญ่ที่น่าทึ่งนี้ มันยังคงสมบูรณ์และสดใหม่” สิ่งสำคัญที่ต้องระวังอย่างมากในการค้นพบนี้คือ ห้ามแตะต้องเด็ดขาดเนื่องจากอาจมีเชื้อโรคที่เป็นอันตรายได้ อีกทั้งการเก็บชิ้นส่วนของกระดูกที่พบไปถือเป็นการทำผิดกฎหมาย National Parks and Wildlife Service (NPWS) ระบุว่า “วาฬได้รับการคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการครอบครองวาฬส่วนใดส่วนหนึ่งภายใต้กฎหมายของรัฐและของรัฐบาลกลางถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย” หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ กระดูกวาฬมีสถานะแบบเดียวกับงาช้าง หากการครอบครองงาช้างผิดกฎหมาก กระดูกวาฬก็เช่นกัน แต่ทั้งนี้ ผู้คนยังคงสามารถเข้าใกล้และถ่ายรูปได้ “เกรแฮม สตับบ์” ผู็จัดการพิพิธภัณฑ์ Eden Killer Whale เผยว่า “การพบซากวาฬที่ทางตอนใต้ของออสเตรเลียนั้นไม่ค่อยแปลกเท่าไหร่ เพราะปกติจะมีซากวาฬถูกซัดเกยตื้นที่ภูมิภาคนี้เป็นประจำทุก ๆ 2 ปีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่มันพิเศษคือการที่มันหลงเหลือแต่กระดูกสันหลังนี่แหละ ที่พบเจอได้ไม่บ่อยนัก” ในตอนนี้ นักวิจัยยังไม่ทราบว่า ซากกระดูกที่พบนี้เป็นของวาฬชนิดใด แต่อีกไม่นานก็น่าจะได้คำตอบเนื่องจากกระดูกยังคงมีเศษเนื้อ รวมถึงกระดูกก็มี DNA หลงเหลืออยู่เพียบ โดย “เดวิด ดอนเนลลี่” […]

พบ “ซากกระดูกสันหลัง” ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ (ยาว 10 เมตร) เกยตื้นชายฝั่งออสเตรเลีย Read More »

ความร้อนจากการปะทุ “ภูเขาไฟ-ปอมเปอี” (เมื่อ 2 พันปีก่อน) เปลี่ยนสมองคนให้กลายเป็น “แก้ว”

เมื่อครั้งที่ภูเขาไฟวิสุเวียส ระเบิดขึ้นเมื่อ 79 ปีก่อนคริสตกาล มันได้ปล่อยก๊าซและหินร้อนออกมามากพอ จนสามารถต้มเลือดภายในร่างกายของมนุษย์จนเดือดได้ หรือแม้แต่ทำให้ผิวหนังของสิ่งมีชีวิตระเหยกลายเป็นไอ รวมทั้งยังเปลี่ยนเนื้อเยื่อสมองของมนุษย์ให้กลายเป็นแก้วได้เลย   ซึ่งปกติแล้วนักโบราณคดีไม่ค่อยพบสมองมนุษย์ระหว่างการขุดสำรวจมากนัก แต่ถ้าพบแล้วล่ะก็ ส่วนมากสมองก็จะมีรูปร่างคล้ายสบู่ก้อนเล็ก ๆ เสียมากกว่า แต่ล่าสุดเมื่อตรวจสอบซากของผู้เคราะห์ร้ายที่เสียชีวิตในเฮอร์คิวเลเนียม (Herculaneum) เมืองโบราณ ณ ประเทศอิตาลี ในเหตุการณ์การระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียส (Vesuvius eruption) เหล่านักวิจัยกลับพบสิ่งที่ต่างออกไป พวกเขาพบว่า สมองของเหยื่อถูกไฟไหม้จนเปลี่ยนเป็นเศษแก้วชิ้นเล็กชิ้นน้อย (สีดำ) โดยเกิดจากการผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “Vitrification” (เวอร์-ทิ-ฟิ-เค-ชั่น) คือการที่ของผิวอ่อนถูกความร้อนสูงเฉียบพลันจนเปลี่ยนสถานะกลายเป็นของเหลว และเมื่อเย็นลงจึงกลายเป็นผลึกแก้ว การค้นพบนี้เป็นผลงานของ ดร.เพียร์ เพาโล เปโตรเน (Pier Paolo Petrone) ศาสตราจารย์วิชาสรีรวิทยามนุษย์และมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยแพทย์เฟเดอริโกที่สอง (Federico II University) ในอิตาลี เปโตรเนและเพื่อนร่วมงานของเขาเข้าไปสำรวจซากโครงกระดูกของเหยื่อมากกว่า 300 คนในเฮอร์คิวเลเนียม โดยเมืองเฮอร์คิวเลเนียมอยู่ห่างจากเมืองปอมเปอีราว 20 กิโลเมตร และด้วยระยะความใกล้นี้เอง ทำให้ผู้คนในเฮอร์คิวเลเนียมก็ต้องพบกับชะตากรรมสยดสยองเช่นกัน ซึ่งส่วนมากจะเสียชีวิตจากการที่เลือดภายในร่างกายร้อนจนเดือด-เกิดเป็นแรงดันสูงนำไปสู่การทำให้หัวกะโหลกของพวกเขาระเบิด ในงานวิจัยชิ้นใหม่ เปโตรเนและผู้ร่วมเขียนงานวิจัยเข้าไปตรวจสอบเหยื่อที่อยู่บนเตียงไม้

ความร้อนจากการปะทุ “ภูเขาไฟ-ปอมเปอี” (เมื่อ 2 พันปีก่อน) เปลี่ยนสมองคนให้กลายเป็น “แก้ว” Read More »

Scroll to Top