ภัยแล้งยุโรป-ทำให้ “สโตนเฮนจ์แห่งสเปน” กลุ่มหินลึกลับ (อายุ 7,000 ปี) ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ในช่วงฤดูร้อนยุโรปต้องเผชิญกับภาวะภัยแล้ง ระดับน้ำลดลงจนแห้งเหือด ทว่าในความยากลำบากกลับเผยให้เห็นสิ่งที่น่าทึ่งที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำ นั่นคือ “Dolmen of Guadalperal” หรือฉายา “สโตนเฮนจ์แห่งสเปน” คาดว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 7,000 ปี ปรากฏขึ้นมาให้เห็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี

ดาวเทียม Landsat 8 ของ NASA ถ่ายภาพทางอากาศบริเวณอ่างเก็บน้ำ Valdecanas เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม เปรียบเทียบกับจุดเดียวกันเมื่อ 2013 จะเห็นได้ว่า จุดที่ Dolmen of Guadalperal ตั้งอยู่จะถูกน้ำจมมิด ไม่สามารถมองเห็นได้เลย (รูปที่ 3)

“Dolmen of Guadalperal” ตั้งอยู่ในอ่างเก็บน้ำ Valdecanas ประเทศสเปน ซึ่งด้วยภาวะภัยแล้งทำให้น้ำในอ่างลดลงไปมากถึง 72% จึงเผยให้เห็นกลุ่มหินโบราณหรือสโตนเฮนจ์แห่งนี้ โดยถูกพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1926 โดยนักโบราณคดีชาวเยอรมันชื่อ “Hugo Obermaier” ก่อนจะถูกน้ำท่วมในปี ค.ศ.1963 จากการสร้างอ่างเก็บน้ำ ซึ่งนับแต่นั้นมาก็แทบไม่เคยถูกพบอีกเลย จนกระทั่งในปัจจุบัน (2022)

“สโตนเฮนจ์แห่งสเปน” มีลักษณะคล้ายกับสโตนเฮนจ์ที่อังกฤษ มีหินขนาดใหญ่มากกว่า 100 ก้อนโดยรอบ มีกลุ่มหินที่ถูกจัดเรียงในแนวตั้ง ล้อมรอบเป็นวงกลม ซึ่งทุกวันนี้นักวิจัยยังไม่สามารถไขคำตอบได้ว่า ใครเป็นคนสร้าง ? และสร้างขึ้นมาเพื่ออะไร ? แต่จากสมมุติฐานที่เชื่อมโยงกับโครงกระดูกมนุษย์ที่ถูกพบในบริเวณใกล้เคียงเป็นไปได้ว่ามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสุสาน หรือเป็นแท่นประกอบพิธีกรรมบางอย่าง

“เครก ลี” นักโบราณคดีสิ่งแวดล้อมแห่งมหาวิทยาลัยโคโลราโด กล่าวว่า “การค้นพบหรือการปรากฏตัวของ Dolmen of Guadalperal เปรียบสเมือนสัญลักษณ์ของความแห้งแล้งที่รุนแรง จากการเปลี่ายนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งแม้จะส่งผลเสียโดยรวม แต่ในมุมของนักโบราณคดี นี่ถือว่าเป็นโอกาสในการศึกษาที่อาจจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในช่วงชีวิตของคน ๆ หนึ่งเลยก็ว่าได้”

ภาพถ่ายทางอากาศเปรียบเทียบในระดับปกติ กับตอนเกิดภัยแล้ง

ตอนนี้ ทางสมาคมประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยวของสเปนกำลังสนับสนุนให้ย้าย Dolmen of Guadalperal ไปยังพิพิธภัณฑ์ หรือในบริเวณที่ปลอดภัยจากน้ำท่วม แต่หลายคนก็ขัดค้านเพราะว่า หากย้ายจะเป็นการทำลายแหล่งโบราณคดีและถึงจะไปจัดเรียงใหม่ยังไงมันก็ไม่มีทางเหมือนเดิม ทั้งนี้ เป็นไปได้ว่าภายในสิ้นปี สโตนเฮนจ์แห่งสเปน จะถูกจมอีกครั้งเมื่อระดับน้ำกลับมาปกติ

อ้างอิง (Ref.) – CNN, NBC, TheGuardian, Smithsonian

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top