นี่คือ “อเล็กซ์ ฮอนโนลด์” (Alex Honnold) นักปีนเขาตัวเปล่าชื่อดัง (Free Soloing) ที่สามารถพิชิตยอดเขา El Capitan ในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี สหรัฐอเมริกา ที่ความสูง 3,000 ฟุต (สูงเกือบ 1,000 เมตร) โดยไร้อุปกรณ์ช่วยเหลือ หรือเครื่องมือ safety ใด ๆ ทั้งสิ้น
ทำไมเขาถึงกล้าขนาดนั้น ? นี่เป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวทันทีที่ผม (หรือคุณเอง) เห็นเรื่องนี้ เพราะเดิมทีการปีนเขาปกติ ก็นับว่าเป็นกีฬาที่ความเสี่ยงสูงมากอยู่แล้ว แม้จะมีอุปกรณ์ safety ก็ตาม แต่นั่นก็เทียบไม่ได้เลยกับการ Free Soloing เพราะหากพลาดนิดเดียว = ความตายทันที
แน่นอนว่าคำถามนี้ฮอนโนลด์ถูกถามนับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน เขากล่าวกับ National Geographic ว่า “ผมแค่รักในการปีนเขา ไม่ใช่ว่าการทำแบบนี้มันเท่หรือตื่นเต้นดี แต่ผมทำไปเพียงเพราะผมรักที่จะทำมันแค่นั้นเอง” โดยฮอนโนลด์เริ่มปีนเขาตั้งแต่เด็กพร้อมพ่อ จนกระทั่งกลายมาเป็นนักปีนเขาเต็มตัวเมื่อโตขึ้น เขาพิชิตหน้าผามาแล้วมากมายทั่วโลก และความท้าทายล่าสุดคือการพิชิตยอดเขา El Capitan
โดยการปีนเขาในครั้งนี้ ฮอนโนลด์ต้องเตรียมตัวนานอยู่หลายปี เขาศึกษาเส้นทางและซ้อมปีนขึ้นลงด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือจนชำนาญเส้นทาง จนกระทั่งในปี 2015 เขาตัดสินใจที่จะพิชิตมันด้วยตัวเปล่า ซึ่งถูกถ่ายทำออกมาเป็นสารคดีของ National Geographic ชื่อเรื่อง “Free Solo” โดยมีทีมงานเป็นนักปีนเขาระดับโลกมาช่วยในการถ่ายทำให้
ในการถ่ายทำทีมงานต้องระมัดระวังสูงมากเพื่อไม่ไปรบกวนสมาธิของฮอนโนลด์ มีข้อห้ามมากมายในระหว่างการถ่ายทำ เช่น ห้ามกระซิบกัน ห้ามจาม เคลื่อนไหวให้น้อยที่สุด เพราะการทำให้ฮอนโนลด์เสียสมาธิเพียงนิดเดียวจะเท่ากับความตายทันที โดยฮอนโนลด์ใช้เวลาปีนตั้งแต่ตีนเขาจนถึงยอดเขาด้วยเวลา 4 ชั่วโมง
ฮอนโนลด์มั่นใจมากว่าเขาจะไม่ตกจาก El Capitan แน่นอน เขากล่าวว่า “ผมทราบดีว่ามีนักปันเขาตัวเปล่ามากมายที่เสียชีวิตจากการตกเขา แต่สำหรับผมแล้ว ด้วยการฝึกฝนจนชำนาญทำให้ความอันตรายของ El Capitan น้อยลงจนผมไม่กลัวแล้ว” โดยแฟนสาวของฮอนโนลด์กล่าวว่า “Free Solo สำหรับฮอนโนลด์เป็นเหมือนความรักมากกว่ากีฬาเสียอีก”
สุดท้าย สำหรับภาพยนตร์สารคดี Free Solo ถูกฉายเมื่อปี 2018 ประสบความสำเร็จและได้รับคำชมมากมาย นอกจากภาพที่สวยงามแล้ว ท่วงท่าการปีนของของฮอนโนลด์ก็สวยงามไม่แพ้กัน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาสารคดียอดเยี่ยมอีกด้วย
อ้างอิง (Ref.) – NationalGeographic, The Atlantic, The Guardian