World

เรื่องจริงของเด็กสาวที่ “หายตัวไปนาน 5 ปี” สุดท้ายพบว่า “หนีไปซ่อนในตู้เสื้อผ้าบ้านแฟน”

เรื่องจริงของเด็กสาวที่ “หายตัวไปนาน 5 ปี” สุดท้ายพบว่า “หนีไปซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าบ้านแฟน” โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1998 เมื่อวันหนึ่ง “นาตาชา ไรอัน” ออกไปโรงเรียนและไม่กลับมาบ้านอีกเลย ซึ่งในตอนแรกครอบครัวคิดว่าเธอคงกลับมาในอีกไม่กี่วัน เพราะก่อนหน้านี้เธอก็เคยหายไปแบบนี้เหมือนกัน  แต่ทว่าคราวนี้ต่างออกไป เพราะจากหลายวัน กลายเป็นสัปดาห์ จนกลายเป็นหลายเดือน นาตาชาก็ยังไม่กลับมาบ้าน ซึ่งไม่ว่าจะตามหาอย่างไรก็ไม่พบนาตาชาเลย ประกอบกับช่วงนั้นมีข่าวการเสียชีวิตของหญิงสาวจากฝีมือของอดีตนักโทษคนหนึ่ง จนครอบครัวคิดว่านาตาชาอาจตกเป็นเหยื่อไปแล้วก็เป็นได้ ทางตำรวจได้สอบถามอดีตนักโทษคนดังกล่าวว่าเขาได้ลงมือกับนาตาชาหรือไม่ ซึ่งไม่ทราบว่าเหตุใด นักโทษคนนั้นถึงยอมรับว่าได้ลงมือกับนาตาชา พร้อมบอกที่ซ่อนศพด้วย แต่ทว่าเมื่อไปตรวจสอบกลับไม่พบร่องรอยของนาตาชาเลย กระทั่งวันหนึ่ง ในปี 2003 (ผ่านไป 5 ปี) ขณะที่ศาลกำลังตัดสินอดีตนักโทษในข้อหาฆาตกรรมนาตาชา แต่แล้วเธอก็ปรากฏตัวขึ้นกลางศาลซะอย่างงั้น เพื่อเป็นพยานว่านักโทษคนดังกล่าวไม่ได้ลงมือกับเธอ นั่นทำให้อดีตนักโทษคนนี้รอดพ้นข้อหาดังกล่าว แต่คำถามคือ ”นาตาชาหายไปไหนมา 5 ปี ?” นาตาชาสารภาพว่า เธอหนีไปซ่อนตัวอยู่บ้านแฟนวัย 21 ปี ชื่อ “สก็อต แบล็ค” โดยซ่อนอยู่ในบ้านปิดม่านทึบไม่มีใครมองเห็นจากภายนอก ซึ่งส่วนใหญ่ที่จะแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้า สำหรับสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากครอบครัวที่แตกแยก พ่อแม่ของเธอแยกทางกัน เธอกลายเป็นเด็กมีปัญหา […]

เรื่องจริงของเด็กสาวที่ “หายตัวไปนาน 5 ปี” สุดท้ายพบว่า “หนีไปซ่อนในตู้เสื้อผ้าบ้านแฟน” Read More »

เรื่องจริงของเด็กสาวที่ “หายตัวไปนาน 5 ปี” สุดท้ายพบว่า “หนีไปซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าบ้านแฟน”

“นาตาชา ไรอัน” หญิงสาววัย 14 ปี ได้หนีออกจากบ้านและหายตัวไปนานกว่า 5 ปี ด้วยการ “ซ่อนอยู่ในบ้านและตู้เสื้อผ้าของแฟน” จนครอบครัวคิดว่าเธอเสียชีวิตไปแล้ว โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1998 เมื่อวันหนึ่ง “นาตาชา ไรอัน” ออกไปโรงเรียนและไม่กลับมาบ้านอีกเลย ซึ่งในตอนแรกครอบครัวคิดว่าเธอคงกลับมาในอีกไม่กี่วัน เพราะก่อนหน้านี้เธอก็เคยหายไปแบบนี้เหมือนกัน  แต่ทว่าคราวนี้ต่างออกไป เพราะจากหลายวัน กลายเป็นสัปดาห์ จนกลายเป็นหลายเดือน นาตาชาก็ยังไม่กลับมาบ้าน ซึ่งไม่ว่าจะตามหาอย่างไรก็ไม่พบนาตาชาเลย ประกอบกับช่วงนั้นมีข่าวการเสียชีวิตของหญิงสาวจากฝีมือของอดีตนักโทษคนหนึ่ง จนครอบครัวคิดว่านาตาชาอาจตกเป็นเหยื่อไปแล้วก็เป็นได้ ทางตำรวจได้สอบถามอดีตนักโทษคนดังกล่าวว่าเขาได้ลงมือกับนาตาชาหรือไม่ ซึ่งไม่ทราบว่าเหตุใด นักโทษคนนั้นถึงยอมรับว่าได้ลงมือกับนาตาชา พร้อมบอกที่ซ่อนศพด้วย แต่ทว่าเมื่อไปตรวจสอบกลับไม่พบร่องรอยของนาตาชาเลย กระทั่งวันหนึ่ง ในปี 2003 (ผ่านไป 5 ปี) ขณะที่ศาลกำลังตัดสินอดีตนักโทษในข้อหาฆาตกรรมนาตาชา แต่แล้วเธอก็ปรากฏตัวขึ้นกลางศาลซะอย่างงั้น เพื่อเป็นพยานว่านักโทษคนดังกล่าวไม่ได้ลงมือกับเธอ นั่นทำให้อดีตนักโทษคนนี้รอดพ้นข้อหาดังกล่าว แต่คำถามคือ ”นาตาชาหายไปไหนมา 5 ปี ?” นาตาชาสารภาพว่า เธอหนีไปซ่อนตัวอยู่บ้านแฟนวัย 21 ปี ชื่อ “สก็อต แบล็ค” โดยซ่อนอยู่ในบ้านปิดม่านทึบไม่มีใครมองเห็นจากภายนอก

เรื่องจริงของเด็กสาวที่ “หายตัวไปนาน 5 ปี” สุดท้ายพบว่า “หนีไปซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าบ้านแฟน” Read More »

This is the true story of a man who survived in the Amazon by drinking his own urine for 31 days.

the story Jhonatan Acosta went lost in the Amazon jungle in January after hunting with companions; he reappeared 31 days later with an astonishing survival story. Jhonatan Acosta, 30, reappeared from the Amazon jungle in Bolivia on February 25, 2023, a month after going missing while hunting. He informed rescuers that he ate insects and

This is the true story of a man who survived in the Amazon by drinking his own urine for 31 days. Read More »

รู้จักกับ “เคนนี่” เสือขาวหน้าตลก (ที่ชีวิตจริงแสนเศร้า) และความเข้าใจผิดของเสือขาวหายาก

นี่คือเรื่องจริงของ “เคนนี่” เสือขาวหน้าตลกที่เป็นดาวน์ซินโดรม กลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ ผู้คนจำนวนมากต่างเอ็นดูเจ้าเคนนี่ แต่ทว่าชีวิตจริงของเคนนี่นั้นแสนเศร้า และมีความจริงบางอย่างที่สวนสัตว์ไม่ได้บอกเรา อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญยังบอกว่าเราไม่ควรเพาะพันธุ์เสือขาวด้วย เมื่อช่วงต้นปี 2000 ผู้คนต่างหลงใหลรูปถ่ายของ “เคนนี่” เสือขาวหน้าตาตลก ที่ทางสวนสัตว์โปรโมทว่ามันเป็นดาวน์ซินโดรม แต่ความจริงแล้วเจ้าเคนนี่ไม่ได้เป็นดาวน์ซินโดรมและไม่มีทางเป็นด้วย เพราะ “ภาวะดาวน์ซินโดรม” เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในมนุษย์เท่านั้น นั่นหมายความว่าสวนสัตว์ใช้คำว่าดาวน์ซินโดรมเพียงเพื่อดึวดูดนักท่องเที่ยวเท่านั้น แล้วความผิดปกติของเจ้าเคนนี่คืออะไร ? “ซูซาน เบส” ผู้เชี่ยวชาญจาก Big Cat Rescue (BCR) กล่าวกับ the dodo ว่า “ความผิดปกติของเคนนี่เป็นผลมาจากการผสมข้ามสายพันธุ์หลายชั่วอายุเพื่อให้ลูกเสือแสดงยีนด้อยออกมา (สีขาว) ซึ่งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มักจะมาจากคอกเดียวกัน” อีกทั้ง สาเหตุที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเราไม่ควรเพาะพันธุ์เสือขาว เพราะว่า “เสือขาวไม่ใช่สายพันธุ์ ไม่ใช่สัตว์หายาก เพียงแต่เป็นความผิดปกติตามธรรมชาติเท่านั้น” ทว่าสาเหตุที่เรายังคงเห็นเสือขาวตามสวนสัตว์ นั่นก็เพราะมันทำกำไรได้ ซึ่งลูกเสือขาวส่วนใหญ่ที่ได้มักจะร่างกายไม่แข็งแรง และอายุสั้น โดยโอกาสเกิดเสือขาวที่แข็งแรงสมบูรณ์คือ 1 ใน 30 ตัว ซึ่งส่วนมากตัวที่ไม่แข็งแรงมักจะถูกฆ่าทิ้งเพราะขายไม่ได้ โดยเจ้าเคนนี่ถือว่าโชคดี เพราะได้รับการช่วยเหลือจาก Turpentine Creek Wildlife

รู้จักกับ “เคนนี่” เสือขาวหน้าตลก (ที่ชีวิตจริงแสนเศร้า) และความเข้าใจผิดของเสือขาวหายาก Read More »

รู้จักกับ “บิล ฮาสต์” ซูเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริง ชายผู้มีภูมิต้านทานพิษงูเกือบทุกชนิดบนโลก

“บิล ฮาสต์” นักวิจัยผู้ก้าวข้ามความกลัวเปลี่ยนเป็นความหลงใหลใน “งูพิษ” ชายผู้อุทิศตัวให้กับการพัฒนาเซรุ่มด้วยการฉีด “พิษงู” กว่า 200 สายพันธุ์ เข้าร่างกายทุกวันตลอดระยะเวลา 60 ปี เคยถูกงูกัดมาแล้วกว่า 170 ครั้ง จนได้ฉายาว่า “Snake Man” บิลเริ่มต้นทำงานนี้ในปี ค.ศ.1946 โดยเขารวบรวมงูพิษกว่า 200 สายพันธุ์ทั่วโลก ในแลปมีงูพิษมากถึง 10,000 ตัว หน้าที่ของเขาคือการสกัดพิษงู โดยในแต่ละปีเขาจะส่งตัวอย่างพิษงูมากถึง 36,000 ตัวอย่าง ไปยังศูนย์พัฒนาเซรุ่มทั่วโลก นั่นหมายความว่า เซรุ่มพิษงูที่ถูกพัฒนาขึ้นล้วนได้รับตัวอย่างพิษมาจากบิลทั้งสิ้น และด้วยการทำงานกับงูพิษจำนวนมาก เขาจึงป้องกันตัวเองด้วยการฉีดพิษงูเจือจางเข้าร่างกายทุกวันเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ตั้งแต่พิษงูทะเล งูเห่า งูต้นไม้แอฟริกา งูหางกระดิ่ง งูสามเหลี่ยม และอื่น ๆ อีกมาก ทำให้แม้ว่าตลอดชีวิตของบิลจะถูกงูกัดมากถึง 172 ครั้ง แต่เขาก็ไม่เป็นอะไร ในปี 1996 บิลกล่าวกับสำนักข่าว AP ว่า “ครั้งหนึ่งเมื่อปี ค.ศ. 1954

รู้จักกับ “บิล ฮาสต์” ซูเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริง ชายผู้มีภูมิต้านทานพิษงูเกือบทุกชนิดบนโลก Read More »

“Sexsomnia มีอยู่จริง” โรคที่ผู้ป่วยละเมอมีเซ็กส์ (หรือช่วยตัวเอง) ในระหว่างหลับแบบไม่รู้ตัว

รู้หรือไม่ว่า “Sexsomnia” มีอยู่จริง ! เป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับที่ผู้ป่วยมักแสดงพฤติกรรมทางเพศขึ้นมาระหว่างนอนหลับแบบไม่รู้ตัว ทั้งการช่วยตัวเอง ร้องคราง ถึงจุดสุดยอด หรือมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอน “Sexsomnia” บางครั้งถูกเรียกว่า “Sleep Sex” จัดอยู่ในประเภท Parasomnia ที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติในการนอนหลับ ซึ่งอยู่เดียวกับอาการละเมอเดิน หรือละเมอพูดออกมา จากการศึกษาในปี 2018 พบว่ามีประชากรในวัยผู้ใหญ่ประมาณ 7.1% ที่ป่วยเป็นโรค Sexsomnia โดยจะพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง Sexsomnia เกิดขึ้นได้ยังไง ? จากรายงานการศึกษาในปี 2010 ในวารสาร Clinical Neurology and Neurosurgery ที่เขียนโดย “ดร.เร็กซ์ฟอร์ด มูซา” ระบุว่า Sexsomnia จะเกิดขึ้นในช่วงหลับลึก (deep sleep) พฤติกรรมดังกล่าวจะปรากฏออกมาเมื่อสมองถูกกระตุ้น เมื่อปี 2016 มีการศึกษาโดยการตรวจคลื่นสมอง (EEG) ของผู้ป่วย Sexsomnia พบว่า เมื่อมีอาการ sexsomnia สมองในส่วน motor

“Sexsomnia มีอยู่จริง” โรคที่ผู้ป่วยละเมอมีเซ็กส์ (หรือช่วยตัวเอง) ในระหว่างหลับแบบไม่รู้ตัว Read More »

พบดินแดนใหม่ ณ ปล่องไฟใต้ทะเลลึก พร้อมสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยรู้จักอีก 6 สายพันธุ์

นักสำรวจพบดินแดนแห่งใหม่ที่อยู่ลึกลงไปในอ่าวแคลิฟอร์เนีย นอกชายฝั่งลาปาซ ประเทศเม็กซิโก เป็นที่ตั้งของปล่องไฟใต้ทะเลสูง 24 เมตร สภาพแวดล้อมโดยรอบมีความร้อนสูงจนไม่น่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ แต่ทว่าพวกเขากลับพบสิ่งมีชีวิตที่โลกไม่เคยรู้จักมากถึง 6 สายพันธุ์เลย ทีมสำรวจนานาชาติจากอเมริกาและเม็กซิโก ร่วมกันออกสำรวจโดยใช้หุ่นยนต์ควบคุมระยะไกล (ROV) ชื่อ “SuBastian” มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาและเก็บตัวอย่างของเหลวจากช่องปล่องไฟใต้ทะเล ทั้งหิน โคลน น้ำ และสิ่งมีชีวิต รวมทั้งยังใช้โซนาร์ทำแผนที่ใต้ทะเลเพื่อให้สะดวกต่อการเดินเรือในอนาคต โดยปล่องไฟดังกล่าวคือ “ปล่องไฮโดรเทอร์มอล” เป็นช่องระบายความร้อนจากใต้พิภพ เกิดจากรอยแยกของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งน้ำทะเลจะซึมผ่านรอยแยกลงไปสัมผัสกับเปลือกโลกที่ความร้อนสูง เปรียบเสมือนเป็นหม้อต้มน้ำที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน จากนั้นก็จะเกิดความร้อนตีกลับส่งขึ้นมาทำให้ในบริเวณนั้นมีอุณหภูมิความร้อนสูงถึง 287 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว นอกจากการศึกษาข้อมูลเคมีของปล่องไฮโดรเทอร์มอลแล้ว พวกเขายังพบสิ่งมีชีวิตสุดอึดที่อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ได้ นั่นคือเหล่าหนอนทะเลที่มีมากมายหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งมีหนอนทะเลอย่างน้อย 6 สายพันธุ์ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน และอีก 10 สายพันธุ์ที่ไม่น่าจะมาอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้ อีกทั้งยังมีพวกครัสเตเชีย หอย ดอกไม้ทะเล หนอนลูกศร และอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักวิจัยสงสัยคือ พวกมันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ความร้อนสูงแบบนั้นโดยไม่ถูกต้มสุกได้อย่างไร ? เรื่องนี้คือสิ่งที่พวกเขาต้องศึกษาและวิจัยกันต่อไป แต่จากการประเมิณคาดว่าด้วยอุณหภูมิที่สูง ณ บริเวณนั้นอาจดึงดูดสารอาหารทำให้พวกมันปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่ออยู่รอดได้ ดังนั้นแม้ว่าการสำรวจนี้จะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม

พบดินแดนใหม่ ณ ปล่องไฟใต้ทะเลลึก พร้อมสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยรู้จักอีก 6 สายพันธุ์ Read More »

พบฟอสซิลสัตว์ดึกดำบรรพ์ “มังกรบินแห่งทะเลทราย” ที่เคยมีชีวิตอยู่จริงเมื่อ 160 ล้านปีก่อน

เมื่อปี 2009 เป็นครั้งแรกที่นักวิจัยค้นพบฟอสซิลของสัตว์เลื้อยคลานมีปีกดึกดำบรรพ์ (หรือที่เรียกกันว่า “เรซัวร์”) ในทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี เป็นหนึ่งในสองสายพันธุ์ของสัตว์ดึกดำบรรพ์บินได้ ที่เคยมีชีวิตอยู่จริงเมื่อ 160 ล้านปีก่อน มีฉายาว่า “มังกรบินแห่งทะเลทราย” ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า “เรซัวร์” คือชื่อเรียกของสัตว์ดึกดำบรรพ์บินได้ โดยจะมีหลัก ๆ แค่ 2 กลุ่ม คือ 1. Rhamphorhynchinae และ 2. Pterodactyloids ซึ่งสามารถพบเฉพาะในซีกโลกเหนือหรือที่เรียกว่ามหาทวีปลอเรเซีย ปล. อดีตมหาทวีปแพนเจียแตกออกเป็น 2 ส่วน คือ 1. ลอเรเซีย (เหนือ) 2.กอนด์วานา (ใต้) โดยการค้นพบนี้เป็นครั้งแรกที่พบเรซัวร์ในซีกโลกใต้ คาดว่าเป็นสมาชิกของ Rhamphorhynchinae เพราะมีขนาดเล็ก โดยปีกกว้าง 2 เมตร มีหางยาวแหลม และจะงอยปากยืนยาว พร้อมฟันแหลมคม และแม้จะพ่นไฟไม่ได้แบบในซีรีส์ หรือในนิยายที่เราคุ้นเคย แต่ลักษณะทั้งหมดที่กล่าวมาก็เพียงพอให้เราเรียกมันว่า “มังกร” ได้ “โจนาธาน อัลรากอน”

พบฟอสซิลสัตว์ดึกดำบรรพ์ “มังกรบินแห่งทะเลทราย” ที่เคยมีชีวิตอยู่จริงเมื่อ 160 ล้านปีก่อน Read More »

จีนประสบความสำเร็จ โคลนนิ่ง “ลูกหมาป่าอาร์กติก” (สัตว์หายาก) ตัวแรกของโลก

จากความพยายามเกือบ 2 ปีเต็ม บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของจีน ประสบความสำเร็จในการโคลิ่นนิ่ง “ลูกหมาป่าอาร์กติก” (Arctic Wolf) ครั้งแรกและตัวแรกของโลก ถูกตั้งชื่อว่า “มายา” เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2022 “Sinogene Biotechnologies” เปิดเผยวิดีโอของเจ้ามายา ลูกหมาป่าอาร์กติกที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ โดยมายาเกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ในกรุงปักกิ่ง จาก DNA ของ “มายา” (ตัวต้นแบบ) หมาป่าอาร์กติกที่เสียชีวิตในฮาร์บิน โพลาร์แลนด์ อุทยานสัตว์ป่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน  โดยมายาตัวต้นแบบถูกย้ายมาจากแคนาดาเมื่อปี 2006 และเสียชีวิตเมื่อต้นปี 2021 ด้วยวัยชรา ซึ่ง “Mi Jidong” หัวหน้าทีมของ Sinogene ระบุว่า “พวกเราใช้เวลาเกือบ 2 ปีในการพยายามโคลนนิ่งเจ้ามายาขึ้นมา พวกเราเลือกใช้วิธีการถ่ายโอนนิวเคลียสของเซลล์โซมาติก (SCNT) เป็นวิธีเดียวกันกับที่ใช้โคลนนิ่ง ‘แกะดอลลี่’ (สัตว์โคลนนิ่งตัวแรกของโลก)” จากข้อมูลของ Global Times เผยว่า “ทีมวิจัยสกัด

จีนประสบความสำเร็จ โคลนนิ่ง “ลูกหมาป่าอาร์กติก” (สัตว์หายาก) ตัวแรกของโลก Read More »

รู้จักกับ “นักปีนเขาตัวเปล่า” (Free Solo) พิชิตยอดเขาสูง 1,000 เมตร ได้โดยไม่มีอุปกรณ์ช่วย

นี่คือ “อเล็กซ์ ฮอนโนลด์” (Alex Honnold) นักปีนเขาตัวเปล่าชื่อดัง (Free Soloing) ที่สามารถพิชิตยอดเขา El Capitan ในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี สหรัฐอเมริกา ที่ความสูง 3,000 ฟุต (สูงเกือบ 1,000 เมตร) โดยไร้อุปกรณ์ช่วยเหลือ หรือเครื่องมือ safety ใด ๆ ทั้งสิ้น ทำไมเขาถึงกล้าขนาดนั้น ? นี่เป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวทันทีที่ผม (หรือคุณเอง) เห็นเรื่องนี้ เพราะเดิมทีการปีนเขาปกติ ก็นับว่าเป็นกีฬาที่ความเสี่ยงสูงมากอยู่แล้ว แม้จะมีอุปกรณ์ safety ก็ตาม แต่นั่นก็เทียบไม่ได้เลยกับการ Free Soloing เพราะหากพลาดนิดเดียว = ความตายทันที แน่นอนว่าคำถามนี้ฮอนโนลด์ถูกถามนับครั้งไม่ถ้วนเช่นกัน เขากล่าวกับ National Geographic ว่า “ผมแค่รักในการปีนเขา ไม่ใช่ว่าการทำแบบนี้มันเท่หรือตื่นเต้นดี แต่ผมทำไปเพียงเพราะผมรักที่จะทำมันแค่นั้นเอง” โดยฮอนโนลด์เริ่มปีนเขาตั้งแต่เด็กพร้อมพ่อ จนกระทั่งกลายมาเป็นนักปีนเขาเต็มตัวเมื่อโตขึ้น เขาพิชิตหน้าผามาแล้วมากมายทั่วโลก และความท้าทายล่าสุดคือการพิชิตยอดเขา El Capitan

รู้จักกับ “นักปีนเขาตัวเปล่า” (Free Solo) พิชิตยอดเขาสูง 1,000 เมตร ได้โดยไม่มีอุปกรณ์ช่วย Read More »

Scroll to Top