นักสำรวจพบ “ซากแมมมอธ” (14 ตัว) นอนเกลื่อนติดกับดักที่มนุษย์วางไว้ เมื่อ 15,000 ปีที่แล้ว
วันที่ 9 พ.ย. 2019 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมนักโบราณคดีของเม็กซิโก ได้ค้นพบซากโครงกระดูกแมมมอธจำนวน 14 ตัว ในหลุมลึก 2 หลุม บริเวณเมือง Tultepec (ทุลเทเพค) ทางตอนเหนือของเม็กซิโกซิตี้ (ใกล้กับพื้นที่ก่อสร้างสนามบินใหม่) ถือเป็นการค้นพบโครงกระดูกแมมมอธจำนวนมากที่สุดของประเทศเม็กซิโก ทีมงานเชื่อว่า พวกมันตายหลังจากติดกับดักซึ่งสร้างมนุษย์สร้างไว้ในช่วงราว 15,000 ปีที่แล้ว เนื่องจากแต่ละหลุมมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 25 เมตร และลึกลงไปราว 1.7 เมตร จึงเชื่อว่าเป็นกับดักล่าสัตว์ของมนุษย์ในยุคนั้น และการค้นพบในครั้งนี้ นักโบราณคดีไม่ได้ขุดพบพวกมันนอนเป็นระเบียบสวยงาม แต่สิ่งที่พวกเขาขุดพบคือ ซากโครงกระดูกที่อยู่กระจัดกระจายมากกว่า 800 ชิ้น ทำให้ทีมงานต้องใช้เวลานานถึง 10 เดือน ในการขุดค้น-นำมาประกอบ-นำมาวิจัย “การค้นพบครั้งนี้ ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ระบุว่า มนุษย์รู้จักวางแผนการล่ามาเป็นเวลานานแล้ว เพราะจากการตรวจสอบกระดูกพบว่าแมมมอธบางตัวถูกชำแหละจนแทบไม่มีชิ้นเนื้อหลงเหลืออยู่ อีกทั้งยังเป็นกุญแจสำคัญในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการล่าสัตว์ของยุคก่อนประวัติศาสตร์ , การรวมกลุ่มของมนุษย์ในอดีต และการศึกษาสัตว์กินพืชขนาดยักษ์ในยุคดึกดำบรรพ์” – หลุยส์ คอร์โดบา หัวหน้าทีมขุดค้น กล่าว ก่อนหน้านี้ เม็กซิโกก็เคยค้นพบกระดูกช้างแมมมอธที่สร้างความประหลาดใจมาแล้วหลายครั้ง เช่นในช่วงทศวรรษที่ […]