คำว่า “ลิงโลกเก่า” และ “ลิงโลกใหม่” คืออะไร ? ลิงโลกเก่าจะเป็นลิงที่อาศัยอยู่ในแอฟริกา เอเชีย และยุโรป ซึ่งเป็นทวีปที่ถูกพบก่อน ลิงพวกนี้มีฟันกราม 2 ซี่ รูจมูกแคบ อาจมีหางหรือไม่มีหาง แต่หางจะไม่ถูกใช้ยึดเหนี่ยวกับต้นไม้ และตัวผู้ในลิงจำพวกนี้จะไม่ชอบเลี้ยงลูก ส่วนลิงโลกใหม่คือ ลิงที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกา ซึ่งเป็นทวีปที่ถูกค้นพบภายหลัง ลิงพวกนี้จะมีฟันกราม 3 ซี่ มีรูจมูกว้าง และมีหางที่ช่วยยึดเหนี่ยวต้นไม้และจับวัตถุได้ โดยตัวผู้ในจำพวกนี้มักจะอยู่ช่วยตัวเมียเลี้ยงลูกหลานด้วย
นี่คือ “เดอ-บราซซา” (De Brazza) พบได้ในแถบแอฟริกากลางไปจนถึงเอธิโอเปียและเคนยา มักอาศัยอยู่ในป่าใกล้แม่น้ำหรือหนองน้ำ พวกมันถูกพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1876 โดยนักสำรวจชาวอิตาลีนามว่า “ปิแอร์ ซาวายอง เดอ บราซซา” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อลิงชนิดนี้
โดยทั่วไปแล้วลิงเดอ-บราซซ่ามักอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มประมาณ 8-10 ตัว ซึ่งประกอบด้วยตัวผู้ที่โตเต็มวัย 1 ตัว และตัวเมียโตเต็มวัย 1 ตัว (หรืออาจจะ 2-3 ตัว) นอกนั้นจะเป็นลิงเด็ก ๆ ทั้งหมด โดยลูกสาวมักจะอยู่กับแม่ไปตลอดชีวิต ในขณะที่ลูกชายจะแยกตัวออกไปเมื่อโตเต็มวัย
พวกมันถือเป็นสัตว์ที่หวงแหนอาณาเขตมาก และจะไม่อยู่ร่วมกับลิงสายพันธุ์อื่น ด้วยเหตุนี้ หากมีลิงสายพันธุ์อื่นเข้ามาใกล้พื้นที่ พวกมันจะพยายามขับไล่อย่างดุเดือด ยกเว้นเพียง “ลิงโคโลบัส” ซึ่งมีวงจรหาอาหารที่แตกต่างกัน ดังนั้น ลิง 2 ชนิดนี้จึงสามารถอยู่ร่วมกันได้
แต่หากมีภัยคุกคามเข้ามา ลิงตัวเมียและเด็ก ๆ จะขดตัวเหมือนลูกบอลและซ่อนอยู่ในโพรง หรืออาจยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น ซึ่งอาจกินเวลานานถึง 8 ชั่วโมงจนกว่าจะมั่นใจว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว ในขณะที่ตัวผู้จะเขย่ากิ่งไม้ – ส่งเสียงคำราม – และขยับหัวขึ้นลงเพื่อเป็นการข่มขู่และดึงดูดความสนใจจากผู้ล่าให้ถอยห่างจากตัวเมียและเด็ก
เมื่อถึงช่วงของการหาอาหารในแต่ละวัน ลิงเดอ-บราซซาจะใช้ระยะทางในการเสาะหาอาหารไม่เกิน 500 เมตร โดยหนึ่งในอุปนิสัยที่เห็นได้เด่นชัดของลิงโลกเก่าคือ ทั้งตัวผู้และตัวเมียมักเก็บอาหารที่หามาได้ในกระพุ้งแก้ม และจะกินก็ต่อเมื่ออยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
ยิ่งไปกว่านั้น ลิงเดอ-บราซซายังมีดวงตาแบบ “Trichromatic Vision” (ไตรโครมาซี-การมองเห็นความแตกต่างของสีได้อย่างชัดเจน-มนุษย์เราก็มีดวงตาแบบนี้ครับ) ซึ่งช่วยให้พวกมันแยกแยะผลไม้ดิบ-สุกได้ง่าย โดยอาหารหลักของพวกมันคือผลไม้แทบทุกชนิด รวมถึงเมล็ดพืช ใบไม้ ดอกไม้ และเห็ด เสริมโปรตีนด้วยแมลงปีกแข็ง ปลวก และหนอนด้วยเช่นกัน
ในส่วนของการผสมพันธุ์ ตัวเมียมักจะเป็นฝ่ายเชิญชวนตัวผู้ก่อน ด้วยการส่งเสียงคำรามร้องเรียก เมื่อตัวผู้สนใจ พวกมันจะ “ดม” อวัยวะเพศของตัวเมียเพื่อตัดสินใจว่าจะผสมพันธุ์ด้วยหรือไม่ โดยลิงเดอ-บราซซาตัวผู้สามารถผสมพันธุ์กับตัวเมียได้หลายตัว แต่มีเพียงบางพื้นที่เท่านั้นที่จะอยู่กินกับตัวเมียเพียงตัวเดียว ซึ่งตัวเมียจะใช้เวลาในการตั้งท้อง 5-6 เดือน และจะเป็นฝ่ายเลี้ยงลูกเองเสียส่วนใหญ่
ทั้งนี้ พฤติกรรมหลักที่จะเห็นได้ในลิงเดอ-บราซซาคือ พวกมันจะชอบปีนต้นไม้และว่ายน้ำเป็นประจำ นอกจากนี้ ลักษณะภายนอกของพวกมันก็เป็นที่จดจำไม่แพ้กันจากสัญลักษณ์รูปพระจันทร์เสี้ยว หรือมงกุฎที่เป็นสีส้มแดงบนหน้าผาก พร้อมด้วยเคราและก้นสีขาว รวมถึงแขน ขา และหางที่เป็นสีดำ โดยตัวผู้จะหนักประมาณ 7-10 กก. และตัวเมียหนัก 4-5 กก. หากอยู่ในป่าพวกมันจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 20 ปี แต่หากเลี้ยงในระบบปิดอายุเฉลี่ยของพวกมันอาจมากถึง 30 ปีเลยทีเดียว
โดยราคาซื้อขายของมัน ตามที่ถูกระบุในเว็บไซต์ economictimes.indiatimes.com มีราคาอยู่ที่ตัวละ 3-4 แสนบาท และหากครอบครองอาจผิดกฏหมายในบางประเทศด้วย
อ้างอิง – animalia.bio